“ไม้สัก” vs “ไม้โอ๊ค” — ไม้แบบไหนให้เหมาะกับเฟอร์นิเจอร์ของคุณ?
เมื่อพูดถึงการเลือกไม้สำหรับทำเฟอร์นิเจอร์ ความแข็งแรง ทนทาน ความสวยงาม และการดูแลรักษา คือสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเสมอ เราจะมาเปรียบเทียบไม้ 2 ชนิดที่ได้รับความนิยมนั้นก็คือ ไม้สัก (Teak) และ ไม้โอ๊ค (Oak) ที่ต่างก็มีจุดเด่นเฉพาะตัว มาดูข้อดี-ข้อเสียของแต่ละชนิดกันเพื่อให้คุณเข้าใจงานไม้ได้มากขึ้น
ไม้สัก (Teak)
ไม้สักเป็น ไม้เนื้อแข็งปานกลาง มีความทนทานสูง ด้วยน้ำมันธรรมชาติที่สะสมอยู่ภายใน ทำให้ไม้สัก ทนต่อปลวก ความชื้น และเชื้อราได้ดีมาก เหมาะสำหรับใช้งานได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง เนื้อไม้จะเป็นสีโทนน้ำตาลทอง
จุดเด่น :
ทนต่อปลวก แมลง เชื้อรา และความชื้น
มีน้ำมันในตัว ไม่ต้องดูแลมาก
เหมาะกับงานเฟอร์นิเจอร์ทั้งภายในและกลางแจ้ง
กลิ่นไม้หอม ลายไม้มีเสน่ห์
️
จุดด้อย :
สีไม้อาจซีดจางเมื่อโดนแดดจัดเป็นเวลานาน
บางคนอาจไม่ชอบลายไม้ที่เด่นชัดจนเกินไป
ไม้โอ๊ค (Oak)
ไม้โอ๊คเป็น ไม้เนื้อแข็ง มีลายไม้ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ มีสีอ่อนถึงน้ำตาลกลาง ให้ความรู้สึกอบอุ่น เรียบหรู เหมาะกับสไตล์โมเดิร์นหรือมินิมอล อีกทั้งยังมีความสามารถในการ รับแรงกระแทกสูง และเหมาะกับงานเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการความแข็งแรง
จุดเด่น :
แข็งแรง ทนแรงกระแทกได้ดี
ลายไม้สวย เรียบหรู เป็นธรรมชาติ
ย้อมสีได้หลายเฉด เหมาะกับการออกแบบที่หลากหลายแนว
️
จุดด้อย :
ดูดซึมน้ำง่าย ต้องเคลือบกันชื้นให้ดี
มีน้ำหนักมาก เคลื่อนย้ายลำบาก
สรุป : เลือกไม้แบบไหนดี?
ถ้าคุณต้องการเฟอร์นิเจอร์ที่มีความทนทาน สามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ให้ความรู้สึกอบอุ่น สวยงามเป็นธรรมชาติ ร่วมสมัย และดูแลง่าย ไม้สักดูเหมือนจะเป็นคำตอบของคุณ
ถ้าคุณต้องการเฟอร์นิเจอร์ที่แข็งแรง ลายไม้สวย เรียบหรูเป็นเอกลักษณ์ตามสมัยนิยม เหมาะกับงานออกแบบสมัยใหม่ และใช้ภายในบ้านเป็นหลัก ไม้โอ๊คดูเหมือนจะเป็นคำตอบที่ไกล้เคียงกว่า
ไม่ว่าจะเลือกไม้แบบไหน ความเข้าใจในคุณสมบัติของไม้และการดูแลรักษาคือหัวใจสำคัญของการทำให้เฟอร์นิเจอร์อยู่กับเราได้ยาวนาน